บีหรุซังพาเที่ยว: 2011

ทริปนี้ไปเพื่อ present งานที่มหาวิทยาลัย Hokkaido วันที่ 13-14 ก.ย. 2011 มหาวิทยาลัยอยู่ที่ซัปโปโร ซึ่งเป็น downtown ของ Hokkaido เลยจองที่พักที่ซัปโปโร จองจาก Yahoo travel ของญี่ปุ่น 5,600 เยน มีอาหารเช้า และมีอองเซ็นอยู่ในโรงแรม พรีเซนต์วันที่ 14 ตอน 9 โมงถึงเที่ยง มีเวลาเหลือวันที่ 13 เที่ยวในซัปโปโร ส่วนวันที่ 14 ไปโอตารุหลัง present ไปกันเลย

ขึ้นเครื่องจากสนามบินฮาเนดะ เที่ยวนี้บิน JAL ไปลงสนามบิน Shin-Chitose ที่เมืองซัปโปโร

ถึงสนามบินซัปโปโร ขึ้นรถไฟจากสนามบินเข้าตัวเมือง ขึ้นเที่ยว 12:34

Check point ขึ้นจากสถานี Shin-Chitose Airport

ราคาตั๋วรถไฟ

บรรยากาศในรถไฟ

ประมาณ 40 นาทีก็ถึงสถานีซัปโปโร

ห้างไดมารุ หน้าสถานีซัปโปโร

นี่ก็หน้าสถานี

เดินไปโรงแรม ผ่านหน้ารถม้า ที่หน้าที่ทำการเมืองซัปโปโร เลยแอบถ่ายไว้

นี่ไง ตึกแดง ที่ทำการเมืองซัปโปโร มีละครหลายเรื่องใช้ตึกนี้เป็นโลเคชั่น

ตอนไป เป็นช่วงฤดูร้อน มีดอกไม้ออกเต็ม อันนี้ปลูกอยู่ที่หน้าที่ทำการเมือง

นี่ก็อีกมุมของที่ทำการเมือง

เดินมาอีกหน่อย เจอรถม้าคันเดิม เลยถ่ายไว้อีกรูป

เดินมาถึงหน้าสวนสาธารณะชื่อสวน โอโดริ หน้าหนาว สวนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่แสดงงาน Sapporo Snow Festival มีรูปปั้นและรูปแกะสลักหิมะมากมายมาแสดง แต่ตอนนี้เป็นงานแสดง Sappo Autumn Festival

ดอกไม้ในสวนโอโดริ

เดินถึงโรงแรมละ

เช็คอินเอาของเก็บห้องแล้วรีบออกมาเที่ยว นี่เป็นเงินญี่ปุ่นที่ไม่มีใช้แล้ว เลยถ่ายเป็นที่ระลึก เจอที่ร้านขายของข้างๆโรงแรม

Shopping street โรงแรมก็อยู่บน shopping street อันนี้

แวะกินราเมนเป็นอาหารกลางวัน เมนูนี้ชื่อว่า ชาชูมิโซะราเมน

หน้าร้านราเมน

เดินกลับมาที่สวนโอโดริอีกครั้ง

ดอกไม้ในสวน

นี่ก็อีกอัน

หอออกอากาศทีวีของซัปโปโร อยู่ด้านหน้าสุดของสวนโอโดริ ทางโรงแรมมีบัตรสมนาคุณให้เลือกระหว่างขึ้นหอทีวีอันนี้ กับกินข้าวโพดครึ่งฝัก เราเลือกกินข้าวโพด เพราะเคยขึ้นหอนี้แล้ว และก็คิดถึงข้าวโพดหวานๆมาก อยากกิน

ร้านข้าวโพด เอาคูปองที่ได้จากโรงแรมมาแลกได้ฟรี ถ้าซื้อ 1 ฟักราคา 300 เยน

นี่ไง ข้าวโพดครึ่งฝักที่เราได้คูปองมา อร่อยมาก อยากกลับไปกินที่เมืองไทย

อันนี้เป็นสัญลักษณ์ของซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาเก่า ชื่อ โทเคได ถ้าใครไปซัปโปโรแล้วไม่ได้ไปที่นี่ถือว่าไปไม่ถึง ข้างในเป็นพิพิธภัณท์

บรรยากาศในเมืองซัปโปโร เหมือนเมืองช๊อปปิ้งปรกติ

เดินผ่านไอติม 31 อดไม่ได้ ต้องกินซักหน่อย

อันนี้เป็นแหล่งเที่ยวกลางคืนของซุปโปโร ชื่อย่าน ซูซูกิโน่

อีกมุมนึงของซูซูกิโน่

ผ่านร้านอาหารปู

โมเดลโชว์หน้าร้าน ปูยักษ์และเนื้อเจ็งกอสข่านเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของซัปโปโร แต่มื้อนี้ขอกินปูก่อนแล้วกัน

เข้าไปในร้าน สั่งอาหารชุดนี้กิน ราคาตามที่เห็น

อาหารมาแล้ว ดูเหมือนจะไม่อิ่ม มาอย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่อิ่มมาก

ในเซ็ตมีนาเบะปู

เทมปุระ

ข้าวต้มปู

ปลาหมึกกับแกล้ม

วันแรกหมดแค่นี้ เดินกลับโรงแรมเข้าอองเซนแล้วนอน

รุ่งขึ้นต้องตื่นแต่เช้า ลงไปกินอาหารเช้าในโรงแรม แต่หลับสบายไปหน่อย ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ตื่นมาอีกทีก็ 7 โมงครึ่งแล้ว กินเสร็จ เช็คเอ้าท์ขึ้นรถไฟไปมหาวิทยาลัยฮอกไกโด พรีเซนต์งานถึงเที่ยง เสร็จแล้วไปเที่ยวกันต่อ

ก่อนออกจากมหาวิทยาลัยขอเก็บบรรยากาศภายในไว้ซักหน่อย คนนี้คือ Dr.William Clark ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย (อันนี้ไม่แน่ใจ ไม่ค่อยแน่นเรื่องข้อมูล)

อันนี้ป้ายบอก

แผนที่ภายในมหาวิทยาลัย กว้างมาก จากอักมุมไปถึงอีกมุม ระยะทางเกือบเท่ารถไฟเกือบ 2 สถานี

ป้ายมหาวิทยาลัย

เดินกลับมาที่สถานีซัปโปโร กำลังจะไปเมืองโอตารุ

ขึ้นรถไฟเที่ยว 12:44 ไปลงสุดทางที่โอตารุเลย

ระหว่างทาง รถไฟวิ่งเลียบทำเล วิวสวยมาก

ถึงแล้ว สถานีโอตารุ

เจ้าหน้าที่เช็ครถไฟอยู่ ขึ้นรถขบวนนี้มา

ถายจากหน้าสถานีโอตารุ มองไปไกลๆเห็นทะเล

บรรยากาศในเมืองโอตารุ

สถานีโอตารุ

ทายซิ ตึกนี้คือตึกอะไรเอ่ย คำตอบคือ ร้านอาหาร จริงๆแล้วตึกนี้เคยเป็นธนาคารมาก่อน แต่ธนาคารขายตึก แล้วเจ้าของใหม่ทำเป็นร้านอาหาร ต้องเข้าไปลองกินซักหน่อย

อาหารกลางวัน สั่งเซ็ตนี้กิน ราคา 1,000 เยน มีซูชิ สลัดมันบด เทมปุระ ปลาหมึก ผัก ไข่ตุ๋น ซุป ที่โอตารุ ซูชิมีชื่อเสียงมาก ไปแล้วต้องกินให้ได้

กินเสร็จ เดินไปที่นี่เลย คลองกับโกดัง เป็น landmark ของโอตารุนี่เลย เห็นในหนังหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน

ทางเลียบคลอง มีจิตกรมาวาดภาพ ทำงานศิลปะขาย

นี่ก็อีกมุม มีทัวร์ล่องเรือในคลองด้วย

ฝั่งตรงข้ามคลอง

เดินต่อไป เจอร้านข้าวหน้าซูชิ น่ากินมาก แต่เพิ่งกินมาเมื่อกี้

เดินไปถนนร้านขายของ ถนนนี้แนะนำว่าต้องไปให้ได้ ถ้าเป็นหน้าหนาว น่ารักมาก ของที่ขายก็จะเป็น อาหารสด เช่น ปูยักษ์ หอย, กล่องดนตรีม เครื่องแก้ว ของพวกนี้เป็นของที่มีชื่อเสียงของที่นี่ทั้งนั้น ร้านในรูปเป็นร้านขายเครื่องแก้ว