Thursday, September 1, 2011

Taiwan trip 2011/Jul/07 - 2011/Jul/09

จุดประสงค์หลักของทริปนี้คือการไป conference 3 วัน 2 คืน แต่จุดประสงค์แอบแฝงคือเที่ยวไทเป
Conference จัดที่เมือง Kaohsiung อยู่ทางตอนใต้ของไต้หวัน
เส้นทางการเดินทาง : Tokyo(Narita) - Taipei เครื่องบิน, Taipei - Kaohsiung ชินคังเซน
แผนการเดินทาง วันแรกเครื่องลง เที่ยวไทเปคนเดียวก่อน แล้วไปนอนที่ Kaohsiung
วันที่สอง ครึ่งวันเช้าเข้า conference เสร็จแล้วกลับมาไทเปพร้อมเพื่อน เที่ยวไทเปกลางคืน
วันที่สาม เที่ยวกับเพื่อนจนถึงบ่ายสาม ไปสนามบิน ขึ่นเครื่องกลับนาริตะ

อาหารเช้าระหว่างรอเครื่องออกราคา 500 เยน

ถึงไทเปแล้ว ต้องนั่งรถบัสจากสนามบินไปสถานีรถไฟเพื่อขึ้นชินคังเซนเข้าไทเป
ตั๋วคารา 30 เหรียญ (ประมาณ 30 บาท) รถบัสวิ่งประมาณ 15 นาที

ชินคังเซนไต้หวัน ที่สถานี HSR Taoyuan หน้าตาเหมือนชินคังเซนญี่ปุ่นเด๊ะ

ภายในชินคังเซน เหมือนชินคังเซนญี่ปุ่นเป๊ะเลย เหมือนแม้กระทั่งที่แขวนสูท
นั่งประมาณ 20 นาทีก็ถึงสถานี Taipei main station

ถึงไทเปแล้ว นั่งรถไฟใต้ดินไป ดร.ซุนยัดเซน memorial hall มีฉากหลังเป็นตึก Taipei 101

รูปปั้น ดร.ซุนยัดเซนในสวนข้างๆ hall

รูปปั้น ดร.ซุนยัดเซนใน hall

ทหารยืนคุ้มกันรูปปั้น

ดร.ซุนยัดเซน memorial hall ถ่ายจากด้านหน้า

สวนภายใน memorial hall

นี่ก็อีกบรรยากาศนึงของสวน

ตึก Taipei 101 ถ่ายจากใน memorial hall

โห ร้อนจัง ตั้ง 34 องศา

ตึกที่เคยสูงที่สุดในโลก Taipei 101

จักยานให้เช่า แต่ต้องเป็นสมาชิก มีที่จอดอยู่หลายจุดในเมือง ขับไปถึงที่ไหนก็ไปจอดที่นั่น

หิวน้ำเหลือเกิน แวะเข้าไปกินน้ำใน food center ของ Taipei 101

สั่งชาเขียวผสมสับปะรดใส่มะนามและวุ้น อร่อยดี 50 เหรียญ

หน้าสถานี Long shan temple

หน้าวัด Long shan

บรรยากาศภายในวัด ตอนที่ไปผู้คนกำลังสวดมนต์อยู่พอดี สวดกันทุกที่ในวัด บรรยากาศดูขึงขังดี

บทสวดมนต์ อ่านไม่ออกเลย แต่ทุกประโยคสวดด้วยทำนองเดียว

เสามังกร สถาปัตยกรรมภายในวัด

หลังคาวัด 

นี่ก็อีกอันนึง

ในวัดมีน้ำตกเล็กๆด้วย

ร้านที่อยู่หน้าวัด

บริเวณรอบๆวัดเป็นที่ขายของเก่า อารมณ์ประมาณท่าพระจันทร์ ในรูปเหมือนกำลังประมูลของเก่าอยู่ คนนั่งหัวโต๊ะเป็นกรรมการประมูล

หน้าวัดมีการสาธิตวิธีคำนวณหวยด้วย คนมุงดูกันเต็ม มีสาธิตกันหลายโต๊ะ แต่ลงเอยด้วยการขานสูตรคำนวณ เหมือนท่าพระจันทร์จริงๆ

Night market หน้าวัด แต่ดันไปตอนกลางวัน เลยยังไม่ค่อยมีร้านเปิด

บรรยากาศของ night market ตอนบ่ายๆ

เปิบพิศดาล กินเต่า ดูแล้วไม่น่ากินเลย

นี่ก็ถนนระหว่าง night market กับวัด Long shan

มีกิวด้งร้านโยชิโนย่าขายเหมือนญี่ปุ่นเลย แต่หน้าตาอาหารไม่เหมือนเลยซักนิด

นั่งรถไฟกลับมาสถานี Taipei main station

จาก Taipei main station เดินชมวิวไปสถานีที่ติดกันชื่อ Xi men ding ผ่านป้อมปรากาฬสีแดง

บนสะพานลอย ใกล้ถึง Xi men ding แล้ว

ถึง Xi men ding แล้ว เป็นย่านวัยรุ่น ประมาณสยามสแควร์ มีเสื้อผ้า เครื่องประดับ ร้านเพลง ร้านอาหาร แต่ที่เห็น ส่วนใหญ่เป็นร้านญี่ปุ่น วัยรุ่นที่นี่ท่าทางน่าจะบ้าญี่ปุ่นเหมือนกัน ขนาดเพลงที่เปิดในร้านยังเป็นเพลง JPOP เลย

อีกมุมนึงใน Xi men ding

เจอส้วมอันนี้แล้วนึกหิวขึ้นมาทันที ฮิฮิ ต้องแวะเข้าไปหาอะไรกินในส้วมซะแล้ว

บรรยากาศภายในร้านส้วม ใครหนอช่างคิด เอาโถส้วมมาเป็นเก้าอี้ เอาอ่างอาบน้ำมาเป็นโต๊ะ

สั่งอาหารเป็นชุดทาง รู้สึกว่าจะ 220 เหรียญ มีซุปข้าวโพด ชาเย็นมาเสริฟก่อน

อันนี้แอบถ่ายโต๊ะข้างๆ ตักกินจากส้วมกันเลย อึ๋ยยยย

ของที่สั่งมาแล้ว มาเป็นอ่างอาบน้ำเลย เป็นกราแตงทะเล อร่อยดีเหมือนกัน

สุดท้ายจบที่ส้วมอันนี้ แล้วมีอะไรอยู่ในส้วมด้วยเนี่ย น่ากินมากเลย

อันนี้ก็โต๊ะข้างๆ เอาขี้ไปกองบนโต๊ะกินข้าวทำไมเนี่ย

อิ่มจากส้วมก็ออกมาเดินต่อ เจอกลุ่มวัยรุ่นนั่งร้องเพลงกันอยู่

โคมไฟในวัดอีกวัดนึงที่อยู่ใน Xi men ding

เดินเต็ดเตร่ถึงทุ่มกว่าๆก็กลับไป Tapiei main station รอชินคังเซ็นไป Kaohsiung คืนนี้ไปนอนที่นั่น เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเข้า conference ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งด้วยรถด่วนแบบพิเศษ ปกติราคา 1,490 เหรียญ แต่จองทางเน็ตก่อน ได้ลด 30% เลยเหลือ 1,040 เหรียญ ถูกมากๆ ปกตินั่งในญี่ปุ่นราคาจะแพงกว่านี้ 3-4 เท่า ถึง Kaoshiung 5 ทุ่มก็มุ่งหน้าไปโรงแรม เพื่อนที่มาก่อนหน้านี้รออยู่ที่โรงแรมแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ต้องไปปฎิบัติภารกิจ present ใน conference ที่โรงแรม The Splendor อยู่ติดกับท่าเรือ ตัวโรงแรมสร้างแปลกมาก เหมือนมีขาอยู่ 2 ข้าง แล้วสร้างแท่งอีก 1 แท่งไว้ตรงกลางลอยๆ

มองลงมาจากห้อง conference ชั้น 42

นี่ก็อีกมุมนึงจากห้อง conference

เสร็จงานก็กลับโรงแรม check out ออกมาหาอะไรกระแทกปาก ร้านนี้ดูน่าทางดี เหมือนข้าวราดหน้าไก่

ทานเสร็จก็กลับไปขึ้นชินคังเซนกลับไทเป เกือบตกรถ เพราะดันคุยกับเพื่อนเพลิน นั่งรถเลยไป 4 สถานี นั่งย้อนกลับมา เพื่อนยังไม่ได้แลกใบจองเป็นตั๋วจริงอีก คิวก็ยาว เหลืออีก 5 นาทีรถออก แต่นึกขึ้นได้ว่าแลปตั๋วที่ร้าน 7-11 ก็ได้ เลยวิ่งไปแลก แล้วรีบวิ่งขึ้นรถ ประตูก็ปิดพอดี

กลับมาไทเปเหมือนเดิม นี้ก็ถนนหน้า Xi men ding ที่เดิม แต่คราวนี้ไม่ได้เที่ยวคนเดียวแล้ว มีเพื่อนมาด้วยอีก 1 คน แล้วก็นัดเพื่อนคนไต้หวันมาเจอกันอีก ให้เป็นไกด์ให้ คืนนี้พักที่หน้า Xi men ding

อาหารค่ำเป็นก๋วยเตี๋ยวคล้ายๆกระเพาะปลา ร้านนี้ไม่มีโต๊ะ มีแต่เก้าอี้ ให้ยืนกินนั่งกินกันหน้าร้าน

ร้านนี้เปิดมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 1975

แวะกลับไปที่วัด Long shan อีกรอบตอนกลางคืน เดินเล่นบริเวณข้างๆวัด แวะชิมชา รสออกเปรี้ยวนิดๆ มีกลื่นมินท์หน่อยๆ

แล้วก็แวะกลับไปที่ night market คราวนี้ร้านเปิดครบแล้ว บรรยากาศไม่เหมือนกับที่มาตอนกลางวันเลย คนเยอะ ร้านค้าก็เยอะ ของกินก็เพียบ ในรูปเป็นร้านไอศครีม ที่เห็นเป็นตั้งๆทางซ้ายมือคนขายคือถั่วตัด เวลาจะทำไอศครีมก็เอาแผ่นแป้งกลมๆมาปูก่อน แล้วก็เอาที่ไสน้ำแข็งใสมาไสก้อนถั่วตัด จะได้เป็นถั่วตัดป่น แล้วเอามาใส่ในแป้ง ตักไอศครีมใส่ แล้วห่อเหมือนปอเปี๊ยะ

นี่ก็ร้านอาหารอีกร้าน

ร้านนี้ เปิปพิศดาร ขายอาหารทีทำจากงู ให้เลือกงูสดๆจากหน้าร้าน ตัวไหนน่ากินก็เลือกเอา เอามาทำให้กินกันสดๆ

นี่คือหนึ่ง choice ใครจะกินตัวนี้เนี่ย ที่นี่มีหมด ไม่ว่าจะเป็นงูเห่า งูจงอาง

ไปดูร้านอื่นดีกว่า

มีแต่อาหารทั้งนั้น จะไม่ให้อ้วนได้ไงเนี่ย

ร้านนี้ชอบมาก ลูกชิ้นปลาทอดใส้ไข่ต้ม

เกมส์เหมือนงานวัด

นี่ก็ใบ้หวยอีกแล้ว

อันนี้เต้าหู้เหม็นทอด เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าเหม็นมาก แต่พอกินไป ไม่ค่อยเหม็นเท่าไหร่ กรอบ อร่อยดี

ซุปปลาไหล กินไปแค่ 1 ตะเกียบคีบ ทำใจกินต่อไปไม่ได้ เพราะยังนึกถึงงูเมื่อกี้อยู่ เหมือนซุปงูยังไงไม่รู้ แล้วเห็นเป็นตัวๆนอนขดอยู่ในซุป แต่เพื่อนมันชอบมาก กินหมดทั้งตัวเลย อยู่ประเทศมัน(เวียดนาม) กินแปลกกว่านี้เยอะ

มากินของเบาๆกับบ้างดีกว่า เป็นน้ำผสมวุ้นกลิ่นเหมือนส้มผสมมะนาว ชุ่มคอดี

แล้วก็มากินน้ำมะระปั่น ตอนแรกนึกว่าขม แต่เค้าใส่น้ำผึ้งและนมลงไปด้วย ไม่รู้สึกถึงความขมเลย แต่มะระที่นี่สีขาว อาจจะไม่ขมเท่ามะระสีเขียว

เสร็จแล้วเดินกลับโรงแรม

วันรุ่งขึ้นทานอาหารเช้าของโรงแรมเสร็จก็ออกไป Taipei 101 วันนี้จะขึ้นไปยอดตึก วันที่แล้วไปแค่ใต้ตึกเพราะต้องรอมาขึ้นพร้อมกับเพื่อน

มองอะไรอยู่หน่ะ อ๋อ มองการไกล :D

ผนังตึก Taipei 101

ได้ตั๋วมาแล้ว 400 เหรียญ พร้อมบัตรลดไอศครีม ส่วนเพื่อนคนไต้หวันมีงานอดิเรกเป็นไกด์ เลยขึ้นได้ฟรี

ขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกไปชั้น 89
มองจาก observatory ชั้น 89 เห็น ดร.ซุนยัดเซน memorial hall

มองไปไกลๆที่อยู่ตรงกลางภาพคือ เจียงไคเช็ค memorial hall ซึ่งจะเป็นที่สุดท้ายที่จะไป

ที่ห้อง observatory มีไกด์มือถือให้ด้วย แต่ไม่มีภาษาไทย

มองจากยอดตึก เห็นตึกรามบ้านช่องเหมือนตัวต่อของเล่น
เดินขึ้นไปชั้น 91 เป็น outdoor observatory

เทคโนโลยีการรองรับแผ่นดินไหวของตึก Taipei 101 ใช้ลูกตุ้มเหล็กขนานยักษ์ 660 เมตริกตันไปแขวนไว้ที่ชั้น 88 เวลาแผ่นดินไหว ลูกตุ้มนี้จะแก่วงไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตัวตึก ทำให้ตึกรักษาสมดุลอยู่ได้

ลงจาก Taipei 101 เริ่มหิวแล้ว นั่ง Taxi ไปกินติ่มซำที่ร้าน Ding tai fong เป็นร้านที่มีชื่อเสียง มีสาขาอยู่หลายประเทศ ญี่ปุ่นและไทยก็มี แต่รสชาดจะไม่ใช่ต้นตำหรับเหมือนที่นี่ เราไปถึงกันประมาณ 11 โมงครึ่ง เลยรอคิวแค่ 15 นาที ถ้าไปตอนเที่ยงต้องรอเป็นชั่วโมง

เมนูในร้าน

เสียวหลงเปา

กัดปุ๊ปน้ำซุปพุ่ง แตกกระจาย อร่อยมาก

อันนี้ก็เสียวหลงเปาหน้ากุ้ง

เกี๋ยวน้ำ

เกี๋ยวซ่านึ่ง

ข้าวผัด

ซาลาเปาใส้หมูกับใส้ผัก
มื้อนี้ 1,400 กว่าเหรียญ

กินอิ่มแล้วเที่ยวต่อ ที่ต่อไปคือ เจียงไคเช็ค memorial hall

ใน hall จัดแสดงสิ่งของต่างๆและประวัติของเจียงไคเช็ค

ชุดที่เจียงไคเช็คเคยใส่

ห้องทำงานพร้อมรูปปั้นของเจียงไคเช็ค

รูปนี้เขียนจากตัวอักษาจีนให้เป็นหน้าของเจียงไคเช็ค รูปจริงๆขนาดเท่ากันโปสการ์ด อันนี้ซูมมาจากแว่นขยายอีกทีถึงเห็นรายละเอียดของตัวอักษร

รูปปั้นเจียงไคเช็ค ไปตอนผลัดเวรเปลี่ยนทหารเฝ้ายามพอดี

ทหารเฝ้ายาม

ประตูหน้า memorial hall

เจียงไคเช็ค memorial hall

เสร็จจากที่นี่ก็นั่งชินคังเซนกลับไปสนามบิน Taoyuan เพื่อขึ้นเครื่องกลับนาริตะ

--จบบริบูรณ์--


No comments:

Post a Comment