Tuesday, April 21, 2015

นี่หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าขยะ

ตอนนี้ขอพูดเรื่องขยะล้วนๆ ใครที่คิดว่า ก็แค่ขยะทิ้งไปซิ ถ้าเป็นที่ไทยคงทิ้งไม่ยาก ก็แค่เอาขยะเดินไปใส่ถังขยะก็จบ แต่ถ้าอยู่ญี่ปุ่นจะมีคำถามต่อท้ายว่า “เอ่อ แล้วจะทิ้งยังไงล่ะ” อยู่นอกบ้านไม่มีถังขยะ จะโยนใส่ถนนก็ใช่ที่เพราะถนนก็สะอาดมาก อยู่ที่บ้าน ขยะพวกนี้ต้องทิ้งแบบไหน ทำไงดีล่ะ

คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องขยะมาก รณรงค์เรื่องลดโลกร้อนมาก ทรัพยากรณ์อันไหนนำกลับมาใช้ใหม่ได้ก็เอาไปรีไซเคิล อันไหนต้องทำลายก็ต้องทำลายให้เสียสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด ขยะที่นี่จะต้องแยกประเภทแล้วแต่เขตจะกำหนด ส่วนใหญ่จะมีขยะเผาได้ ขยะเปียก(เศษอาหาร) พลาสติก หนังสือเก่าๆ โลหะ แก้ว เสื้อผ้า ขยะอันตราย แต่ละเขตมีการกำจัดขยะที่ต่างกัน บางเขตรวยหน่อยก็จะมีเครื่องกำจัดที่เผาขยะได้หลายประเภท บางเขตงบน้อยเครื่องจะเผาไม่ได้ทุกประเภทก็จะต้องแยกย่อยลงไปอีก เช่นบางเขตสามารถทิ้งพลาสติกลงลงในถังสำหรับขยะที่เผาได้ บางเขตต้องแยกพลาสติกไว้ต่างหาก ทิ้งแยกกับขยะที่เผาได้

แต่ละเขตจะมีวันทิ้งขยะที่ต่างกัน ขอปฏิทินขยะได้จากสำนักงานเขต แล้วต้องใส่ถุงขยะแยกสีตามที่เขตกำหนดเท่านั้น ถุงขยะของแต่ละเขตมีขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ การทิ้งขยะ เราต้องถอดขยะออกเป็นชิ้นๆแล้วทิ้งแยกประเภท เช่นถ้ามีพลาสติกหุ้มกระดาษ ก็ต้องแกะเอาพลาสติกทิ้งในถังขยะพลาสติก เอากระดาษทิ้งในขยะเผาได้ ส่วนถ้าเป็นกล่องอาหารพลาสติก ทานเสร็จแล้วต้องล้างให้สะอาดแล้วค่อยทิ้ง เคยเจอถังขยะพลาสติกบางเขต ขยะสะอาดมากเหมือนของใหม่เลย จะเอากล่องข้าวทิ้งไม่กล้าทิ้งเพราะกล่องข้าวในถังขยะเหมือนถูกล้างด้วยน้ำยาล้างจานมาก่อน ขนาดขวดโค้กใสๆยังต้องถอดฝา ขอบฝา และพลาสติกหุัมขวดไปทิ้งส่วนที่เป็นพลาสติก ให้เหลือแต่ขวดใส่ๆแล้วเอาน้ำแกว่งๆในขวดให้สะอาดแล้วถึงจะทิ้ง กล่องนมก็ต้องเทน้ำออกให้หมดแล้วล้างน้ำเปล่า และพับกล่องให้แบนถึงจะทิ้งได้

ตอนไปอยู่ใหม่ๆก็มักง่าย คิดว่าทิ้งๆไปเถอะไม่มีใครรู้หรอก มีอยู่วันนึงเจ้าของหอมาเคาะห้องบอกว่าให้แยกขยะเวลาทิ้งด้วย เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่เก็บขยะที่ไม่แยก ทำให้ที่ทิ้งขยะที่หน้าหอเต็ม อ้าวแล้วรู้ได้ไงว่ามันเป็นของเรา เค้าหยิบถุงมาม่าที่มีภาษาไทยให้ดู ทั้งหอมีคนไทยคนเดียวรู้เลยว่ามาจากไหน

ส่วนขยะที่เป็นชิ้นโตๆหรืออุปกรณ์อิเล็คโทรนิคก็ต้องไปเสียเงินค่าทิ้งที่เขตก่อน บอกว่าจะทิ้งของอะไรใหญ่ขนาดไหน เค้าก็จะคำนวนราคามาให้ แล้วก็ให้สติ๊กเกอร์เอามาแปะที่ของถึงจะทิ้งได้ ทีนี้คนญี่ปุ่นชอบเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ชุดจานชาม เครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อย แล้วเวลาได้ของใหม่มาก็ไม่มีที่เก็บ จะทิ้งก็เสียตัง บางคนเลยเอาไปขายกับรถรับซื้อของเก่า หรือร้านขายของมือสอง ถึงแม่จะได้ราคาต่ำมากแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเงินทิ้ง ร้านขายของมือสองก็เอาไปทำความสะอาดให้ดูใหม่แล้วขายต่อในราคาที่ไม่แพงมาก เวลาเพื่อนคนไหนเรียนจบจะกลับประเทศก็จะเริ่มถามคนรู้จักแล้วว่าจะเอาเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ทีวี โน่นนี่นั่นไม๊ ถ้าไม่มีใครเอาก็ต้องเอาไปขายหรือไม่ก็บริจาคให้หน่วยงานช่วยเหลือนักศึกษาของมหาวิทยาลัย

ในมหาวิทยาลัยจะมีบริเวณสำหรับทิ้งขยะ แน่นอนว่าจะต้องมีที่ทิ้งขยะอิเล็คทรอนิกซ์ด้วย ถ้าใครไม่รังเกียจว่าเป็นขยะก็สามารถไปคุ้ยเอากลับมาใช้ได้ ขยะอิเล็คทรอนิกซ์ในมหาวิทยาลัยนี่ไม่ใช่เป็นของที่พังทั้งหมด บางครั้งอาจารย์มีงบซื้อของเข้าแลปใหม่ ของเก่าไม่ได้ใช้แล้วก็โยนทิ้งทั้งๆที่มันยังดีๆอยู่ ผมเคยได้ทีวีดิจิตอล 46 นิ้วมาเครื่องนึง ทีวีอันนี้ใช้สำหรับเวลามีงานก็จะเปิดวีดีโอการทดลองให้แขกดู ปีนึงได้โชว์แค่ครั้งสองครั้ง แต่ตอนหลังๆชุดทดลองอันนี้มันไม่เวิร์คแล้ว ทีวีเลยไม่ได้ใช้ ก็เลยทิ้ง สภาพใหม่เอี่ยม หรือจะเป็นปริ้นเตอร์ หรืออุกกรณ์ไฮเทคต่างๆ สภาพยังดีๆทั้งนั้น ในหอพักของมหาวิทยาลัยก็เหมือนกัน มักจะมีเครื่องใช้ต่างๆมาให้ได้หยิบกันฟรีๆ เพราะเจ้าของจะย้ายหอหรือกลับประเทศ แต่ไม่รู้จะให้ใคร เลยเอาไปแอบทิ้ง ได้หม้อหุงข้าวอย่างดี ลำโพง โต๊ะ ฯลฯ ประหยัดตังได้หลาย

1 comment:

  1. This blog is really helpful to deliver updated educational affairs over internet which is really appraisable. I found one successful example of this truth through this blog. I am going to use such information now.ยางปูพื้นรถยนต์

    ReplyDelete