พูดถึงญี่ปุ่นแล้วก็จะนึกถึงความไฮเทค เพราะประเทศนี้มีนวัตกรรมหลายอย่างที่ก้าวหน้ามากหรือที่เราเรียกว่าความไฮเทคนั่นเอง ที่จริงผมคิดว่าความไฮเทคเกิดจาดความขี้เกียจของมนุษย์ เลยต้องทำอุปกรณ์ให้ทำงานแบบอัตโนมัติ เช่น ขี้เกียจเปิดประตูก็ทำประตูที่เปิดเองอัตโนมัติ ขี้เกียจกดสวิตซ์เปิดไปก็ทำสวิต์ที่เดินผ่านแล้วไฟเปิดเอง ขี้เกียจลุกไปเปลี่ยนช่องทีวีก็ทำรีโมตไร้สาย ฯลฯ ตัวอย่างที่ยกมานี่แค่เด็กๆ เราเห็นอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่คนญี่ปุ่นเค้าไม่จบอยู่แค่นั้น คนญี่ปุ่นเป็นคนช่างคิดและพิถีพิถรรพกับรายละเอียดมาก การทำอะไรแต่ละอย่างเค้าคิดอย่างละเอียดแล้วใส่ความละเอียดลงไปในทุกอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่อยากจะพูดถึงคือส้วมอัตโนมัติของญี่ปุ่น ทุกคนอาจเคยได้ยินกิติศัพท์มาบ้างแล้ว
การใช้อุปกรณ์ล้างก้นก็มีมานานแล้ว แต่เนื่องจากคนเราขี้เกียจล้างก้นเองเลยต้องประดิษฐ์อุปกรณ์ชำระล้าง ไม่ว่าจะเป็นสายชำระ หรือ Bidet ที่ต้องลุกย้ายจากโถส้วมมา บีหรุซังเคยไปมาเลเซีย เค้ามีส้วมที่ล้างก้นได้เหมือนกัน แต่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เค้าทำท่อเป็นโค้งๆให้ปลายท่อชี้ไปที่เป้าหมาย เวลาจะล้างก็หมุนก็อก น้ำก็จะพุ่งไปที่เป้าหมาย
ที่ญี่ปุ่นเค้าคิดเรื่องส้วมกันแบบละเอียดยิบ เดินเข้ามาที่ส้วมฝาส้วมต้องเปิดเอง มือจะได้ไม่ต้องสัมผัส ที่นั่งจะมีระบบทำความร้อนแบบฉับพลัน เมื่อก่อนมันจะอุ่นไว้ทั้งคืนทำให้เปลืองไป แต่ตอนนี้เข้าแล้วค่อยอุ่น ระหว่างทำธุระอยู่ทำยังไงไม่ให้มีกลิ่น เวลาจะตดเผื่ออายก็มีเสียงกดชักโครกหรือเสียงนกร้อนมากลบเกลื่อนแทน จะทำยังไงให้ล้างก้นได้โดยไม่ต้องลุกออกจากโถเหมือน Bidet เวลาน้ำฉีดออกมาแล้วทำยังไงให้น้ำฉีดตรงเป้าหมาย เพราะคนเรามีตำแหน่งไม่เหมือนกัน ฉีดข้างหน้าต้องใช้ความแรงเบาๆแบบทนุถนอม ฉีดข้างหลังต้องใช้ความแรงมากกว่าเพื่อไม่ให้เหลือสิ่งตกค้าง บางคงก็ว่าแรงไปจึงมีการปรับขนาดความแรง ฉีดด้วยความแรงเท่ากันตลอดมันก็ชาก้นเกินไปเลยต้องมีแบบแรงค่อยสลับกันไป ก้นเปียกทำยังไงให้แห้ง ก็ใส่เครื่องเป่าลมเข้าไป ทำธุระเสร็จก็ไม่ต้องกดชักโครก เวลาลุกไปแล้วชักโครกจะกดเองอัตโนมัติ ฝาส้วมก็จะปิดเองอัตโนมัติ สักครู่ระบบกำจัดกลิ่นก็จะหยุดทำงานเอง ถ้าใครอบากปรับความร้อน ความแรง ปรับหน้าหลัง เปิดที่นั่งปิดที่นั่ง ทุกอย่างสามารถทำได้จากรีโมทไร้สายเพียงอันเดียวโดยไม่ต้องแตะตัวส้วมเลย เป็นไงล่ะ ไฮเทคสุดๆ
ตอนที่ผมอยู่หอมหาวิทยาลัยในห้องนอนก็จะมีส้วมแบบธรรมดาเหมือนเมืองไทย ผมอยากได้ส้วมแบบญี่ปุ่นไฮเทคนี้บ้าง ราคาก็ไม่แพงเลย 27,800 เยน เลยซื้อมา 1 อัน ไปถามเรื่องการติดตั้งที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าค่าติดตั้ง 6,000 เยน เจ้าหน้าที่แนะว่าจริงๆติดเองก็ได้ไม่ยาก มีคู่มือการติดตั้งให้เรียบร้อย ผมเลยติดตั้งเอง ดูแล้วไม่ยาก อุปกรณ์มีมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นประแจ วงแหวน หรือตัวล๊อคต่างๆ ติดตามรูปตามเบอร์กำกับ ไม่ต้องเสียตัง 6,000 เยนด้วย ก็ทำการเปลี่ยนฝาส้วมเอง ดีใจมีส้วมไฮเทคใช้แล้ว จำได้ว่าแม่ผมชอบแอบแง้มประตูดูว่าฝาส้วมมันปิดเองอัตโนมัติจริงรึเปล่า ต้องแง้มดูเพราะถ้าเปิดประตูออกมาเลยฝาส้วมมันจะเปิดขึ้นมา ช่วงนั้นแม่ผมเข้าห้องน้ำบ่อยมาก
อยู่ไปได้ซัก 3 เดือน ตอนกลางวันผมก็ทำงานอยู่ในห้องแลปที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ไม่มีใครอยู่ที่ห้อง แม่ก็กลับไทยไปแล้ว คนดูแลหอโทรมาบอกว่าเรื่องด่วน มีน้ำไหลออกมาจากห้อง ถามว่าผมซื้อฝาส้วมมาติดเองเหรอ ก็บอกว่าใช่ เค้าบอกว่าท่อที่ติดมันหลุดออกมาน้ำนองไปหมดให้รีบกลับด่วน ก็บอกเค้าว่าให้ช่วยปิดวาล์วน้ำห้องผมก่อนเพราะกว่าจะกลับถึงก็อีกตั้ง 1 ชั่วโมง ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ อย่างมากก็พื้นห้องของผมเปียกแต่ก็ไม่มีอะไรวางที่พื้นอยู่แล้ว พอกลับไปเห็นเจ้าหน้าที่ขนของส่วนใหญ่ในห้องของผมออกมาไว้ที่ระเบียงทางเดิน พื้นก็ยังเปียกๆอยู่ คนดูแลหอบอกว่าให้คนมาเช็ดน้ำออกให้แล้วบางส่วน ที่เหลือผมกับเพื่อนก็ช่วยกันทำต่อ คนดูแลหอบอกว่าน้ำมันรั่วลงไปชั้นล่างด้วยแล้วก็ห้องข้างๆที่อยู่ชั้นเดียวกันอีก เหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว คนดูแลหอบอกว่าจริงๆแล้วผมไม่สามารถติดฝาส้วมเองได้เพราะไม่ได้ขออนุญาติก่อน เค้าจึงให้เจ้าหน้าที่ถอกฝาส้วมของผมออกแล้วใส่ฝาส้วมอันเดิมของหอแทน เค้าบอกว่าผมจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย แล้วมันเท่าไหร่ล่ะ เค้าบอกว่ายังไม่รู้ต้องให้ประเมิณราคาเสร็จก่อน ผมอยู่ชั้นบนสุดชั้น 5 ถ้าน้ำไหลลงมาถึงชั้น 1 ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกห้องรวมทั้งค่าซ่อมตึกด้วย จะต้องเปลี่ยนผนังห้องและวอลเปเปอร์ใหม่ทุกห้องที่โดนน้ำด้วย เพราะไม่งั้นฤดูร้อนจะมีราขึ้น คือเหมือนว่าผมต้องซ่อมตึกให้ทั้งครึ่งตึกเลย เค้าบอกว่าราคาอาจจะประมาณ 8 แสนเยน โอ้แม่เจ้า 8 แสนแล้วจะเอาที่ไหนจ่ายเนี่ย เงินที่เก็บมาเพื่อใช้เป็นค่ากินอยู่และค่าเทอมทั้งหมดเลยนะเนี่ย ผมกับเพื่อนเลยไปสำรวจว่ามีห้องไหนที่โดนผลกระทบจากน้ำส้วมไหลหลากบ้าง ห้องด้านซ้ายไม่เป็นอะไรเลย ด้านขวาน้ำเข้าที่พื้น เลยรีบทำความสะอาดเช็ดน้ำออกให้หมด แต่ที่เสียวอยู่อย่างนึงคือคอมพิวเตอร์ที่วางที่พื้นไม่รู้ว่ามันเสียด้วยรึเปล่าเพราะน้ำมันก็ไปถึงแต่ไม่มาก โชคดีเจ้าของห้องไม่ว่าอะไร คอมก็ไม่เสีย ชั้นล่างล่ะ ไม่เห็นมีใครอยู่ซักคน คืนนั้นนอนไม่หลับเลยทั้งคืน
วันรุ่งขึ้นก็ไปถามคนดูแลหอว่ามีกี่ห้องที่เสีย เค้าก็บอกว่าต้องรอสัปดาห์หน้าถึงจะรู้ แต่ห้องข้างล่างด้านซ้ายน้ำไหลลงฟ้าเพดาน ไฟช๊อตทั้งห้อง เจ้าของห้องอยู่ไม่ได้ เริ่มหนาวขึ้นทุกที 8 แสนจะเอาอยู่ไม๊เนี่ย ไม่รู้น้ำซึมลงไปทางรูไหน ในห้องส้วมไม่มีท่อระบายน้ำที่พื้นเลย ส้วมปูพื้นด้วยลามิเนต เลยไปปรึกษาฝ่ายนักเรียนต่างชาติที่มหาวิทยาลัยว่าจะช่วยผมได้ยังไง มหาวิทยาลัยบอกว่าเดี๋ยวจะช่วยหาแหล่งเงินกู้ราคาถูกให้แล้วกัน ผมนึกขึ้นได้ว่ามีปรักันที่อยู่อาศัยเคยทำไว้ก่อนย้ายหอ ทำไว้ที่หอเก่า 2 ปี แต่อยู่แค่ปีเดียวก็ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ จะทำเรื่องเบิกยังไง เจ้าหน้าที่ไปค้นใบเสร็จมา ทำไว้ 2 ปีจริง ตอนนี้ยังไม่หมดอายุ นึกในใจรอดแล้ว แต่ทึ่ทำเป็นที่อยู่คนละที่กัน ผมกูบอกว่าผมทำของชื่อผม ไม่ได้ทำของหอ เค้าบอกว่าทั้งชื่อทั้งที่อยู่ต้องตรงกันทั้งคู่ถึงจะเบิกได้ เวรกรรมเลย ชื่อใช่แต่ที่อยู่เปลี่ยนเบิกไม่ได้ รีบไปย้ายเงินจากบัญชีหักค่าหอไปไว้บัญชีอื่นให้หมดก่อน กลัวมาหักไป 8 แสน
กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่เป็นอันเรียนอยู่เกือบอาทิตย์ ไปๆมาๆห้องธุรการหอทุกวัน บอกเค้าว่าที่ติดส้วมเพราะส้วมในห้องไม่มีสายชำระผมเลยไม่อยากเข้าส้วมที่ห้อง ต้องอั้นไว้ไปเข้าที่มหาวิทยาลัย ทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาล (ก็อ้างเรื่องที่เรียกรถหวอไปโรงพยาบาลเพราะปวดท้องให้ฟัง จริงๆไม่เกี่ยวกันเลย) งั้นขออนุญาติเค้าติดฝาส้วมที่ซื้อมาแล้วกัน วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ก็มาติดฝาส้วมของผมคือ ผ่านไป 1 สัปดาห์เดินเข้าไปหาคนดูแลหอ เอาบัญชีให้เขาดูและบอกเค้าไปตรงๆว่าเรามีเงินอยู่เท่านี้ ทุกก็ไม่มีแล้ว จะใช้เงินนี้ไปจนกว่าจะเรียนจบ แต่ถ้าต้องจ่าย 8 แสนจริงคงไม่มีเงินเรียนแล้ว คงตัองกลับไทย ถ้าเป็นเช่นนั้น ไหนๆเรียนไม่จบแล้วสู้หอบเงินกลับไปเลยตอนนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ประมาณประโยคบอกเล่าบวกกับประโยคขู่ เค้าก็บอกว่าอย่าเพิ่งคิดมาก มันอาจจะไม่ถึงขนาดนั้นก็ได้ อ้าวแล้วมาขู่ให้เราใจเสียทำไมวะ อีกไม่กี่วันราคาประเมิณก็ออกมา ทั้งหมด 94,500 เยน ไม่ถึงแสน จริงๆจะถูกกว่านี้อีก เพราะเค้าคิดค่าเอาส้วมของผมออก 3,000 เยน และค่าใส่คืนอีก 5,000 เยน และค่าทำความสะอาดอีก 2 หมื่นเยน ซึ่งไม่เห็นทำอะไรมาก ส่วยใหญ่ผมกับเพื่อนเป็นคนทำ แต่ก็ยังดีที่ไม่ถึงแสน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าไม่ชำนาญจ้างเค้าทำดีกว่า ถ้าจ้างแล้วท่อแตก ทางบริษัทติดตั้งจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และถ้าซื้อประกันที่อยู่เช่นไฟใหม้ น้ำรั่ว พายุ แผ่นดินไหว ต้องถามก่อนซื้อเลยว่าประกันตามที่อยู่หรือตามชื่อผู้ซื้อ ซื้อแล้วย้ายที่ยังเบิกได้ไม๊ ถ้าเบิกไม่ได้แนะให้ซื้อกับบริษัทอื่นที่เบิกได้ดีกว่า
No comments:
Post a Comment